เหตุการณ์ฉุกเฉินบนทางถนนนั้นอาจเกิดขึ้นได้กับตัวเราเองหรือคนรอบข้างได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็น รถเสีย สตาร์ทไม่ติด แบตหมด ยางรั่ว ยางแบน น้ำมันหมด หรือ การประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด บทความนี้ Butler จะมาแนะนำ 12 สิ่งที่ควรมีติดรถไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน(ภาค1)
อุปกรณ์ฉุกเฉินในรถยนต์นั้นแต่ละอย่างจะไม่มีความจำเป็นเลยหากไม่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินแต่ก็จำเป็นที่จะต้องมีติดรถเอาไว้และควรตรวจเช็คสภาพการใช้งานอย่างเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นอุปกรณ์เหล่านั้นจะยังช่วยเหลือตัวเราได้
1.ยางอะไหล่และอุปกรณ์เปลี่ยนยางหรือชุดซ่อมยาง
ยางอะไหล่ เป็นอุปกรณ์ที่ติดมากับรถยนต์และควรมีการตรวจเช็ดลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง สำหรับการเดินทางไกลนั้นยางอะไหล่ถือว่ามีความจำเป็นมากเพราะถ้าเกิดเหตุยางแตก ยางแบน รั่ว ซึม เพียงแค่ทำการเปลี่ยนยางอะไหล่ก็จะทำให้เดินทางต่อได้ อุปกรณ์เปลี่่ยนยาง ถือเป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือขั้นพื้นฐานที่ติดมากับตัวรถด้วยเช่นกันประกอบไปด้วย แม่แรงและประแจไขน็อตล้อ ควรเก็บเอาไว้ในรถยนต์ด้วยเช่นกัน
สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ นั้นจะไม่มียางอะไหล่แถมมาให้แต่จะมีชุดซ่อมยาง มาให้แทน ซึ่งผู้ใช้รถนั้นควรจะศึกษาวิธีการใช้งานโดยละเอียดเพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้แก้ไขสถานการณ์ได้
2.คู่มือการใช้รถยนต์และเอกสารสำคัญ
คู่มือการใช้รถยนต์ นั้นจะบอกถึงวิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับตัวรถเมื่อมีไฟที่หน้าปัดแสดงขึ้นอีกทั้งยังมีเบอร์โทรของศูนย์บริการให้อีกด้วย ส่วนเรื่องของเอกสารสำคัญ ที่จำเป็นจะต้องเก็บเอาไว้ในรถนั้นก็คือ สำเนาทะเบียนรถ สำเนา พรบ.และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับประกันภัยรถยนต์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือมีการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเอกสารเหล่านี้จะช่วยให้ง่ายต่อการติดต่อและสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
3.แกลลอนน้ำเปล่าและน้ำดื่ม
การมีน้ำสะอาดติดรถเอาไว้จะช่วยให้คุณรอดจากสถานการณ์หม้อน้ำแห้งได้เป็นอย่างดีและยังใช้เติมแทนน้ำยาทำความสะอาดกระจกได้ด้วย อีกทั้งยังช่วยดับกระหาย ใช้ล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่างๆ ล้างมือ ล้างหน้าได้อีกด้วย สำหรับแกลอนน้ำเปล่า นั้นอาจไม่จำเป็นต้องมีติดรถเป็นประจำแต่ควรมีติดรถยน์เมื่อเดินทางไกล เลือกที่ขนาดไม่ใหญ่มากสักประมาณ 1-2 ลิตร ถ้าเป็นขวดแก้วได้ยิ่งดีหรือถ้าไม่มีก็ให้ใช้แกลลอนน้ำมันเครื่องแทนได้ เพราะสามารถใช้เป็นขวดเติมน้ำมันสำรองในกรณีน้ำมันหมดระหว่างทาง
4.ไฟฉายและถ่าน
เหตุฉุกเฉินนั้นเลือกเวลาไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้วการมีไฟฉายและถ่านสำรองเอาไว้ในรถจะช่วยให้การแก้ไขเหตุฉุกเฉินนั้นทำได้ง่ายขึ้นในเวลากลางคืน ประโยชน์อีกข้อหนึ่งก็คือสามารถช่วยส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ที่เรียกกันว่ารหัส SOS การขอความช่วยเหลือโดยใช้แสงไฟนั้นให้ทำการกระพริบเป็นระยะๆ ด้วยความถี่แบบ ยาว-สั้น-ยาว ด้วยความถี่นี้จะทำให้ผู้พบเห็นนั้นทราบถึงการขอความช่วยเหลือของเรา ควรเลือกไฟฉายแบบพกพาและสามารถแขวนหรือตั้งได้หรือแบบคาดศีรษะเพื่อสะดวกต่อการใช้งานในยามฉุกเฉิน
5.ผ้าสะอาดและถุงมือผ้า
สำหรับผู้ที่ไม่ชินกับการหยิบจับเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ นั้นอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ เพื่อเป็นการปกป้องควรสวมใส่ ถุงมือผ้า ก่อนการหยิบจับเครื่องมือและอุปกรณ์ สำหรับผ้าสะอาดนั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราควรมีติดรถยนต์เอาไว้ ในเหตุการณ์ปกติอาจจะเอาไว้เช็คทำความสะอาดภายในตัวรถหรือใช้เพื่อปกป้องการเปื้อนของสิ่งต่างๆ ในทางกลับกันเมื่อเกิดเหตุการณ์แอร์รถยนต์ไม่เย็นและทำให้กระจกเป็นฝ้าซึ่งจะส่งผลให้ทัศนวิสัยในการขับขี่นั้นแย่ลง ผ้าสะอาดนั้นจะช่วยให้เราเช็คทำสะอาดได้ง่ายขึ้น
6.กล่องเครื่องมืออุปกรณ์ช่างเบื้องต้นและฟิวส์รถยนต์
ไขควง ประแจ ครีมล็อค สิ่งเหล่านี้มักจะอยู่ในกล่องเครื่องมืออุปกรณ์ช่างเบื้องต้น ในการเลือกกล่องเครื่องมือนั้นไม่จำเป็นต้องเลือกกล่องเครื่องมือที่มีขนาดใหญ่หรือมีเครื่องมือช่างทุกอย่างทุกประเภท เนื่องจากจะทำให้มีปัญหาในการจัดเก็บได้ ควรเลือกกล่องเครื่องมือแบบพกพาที่สามารถเก็บเครื่องมืออุปกรณ์ได้เท่าที่จำเป็นและควรสำรองฟิวส์รถยนต์ในกรณีเดินทางไกล ควรศึกษาข้อมูลว่ารถของเราต้องใช้ฟิวส์ขนาดเท่าไหร่และแบบไหนก่อนทำการสำรองฟิวส์
เหตุการณ์ฉุกเฉินเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากพบเจอและไม่คาดคิด หากเรามีการเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้ผ่านพ้นเหตุการณ์ไปได้อย่างไม่ยากมากหรืออาจช่วยบรรเทาสถานการณ์จากหนักเป็นเบาได้ การพกพาอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถไว้นั้นอาจไม่จำเป็นจะต้องพกติดรถไว้ตลอดเวลาให้คำนึงถึงการเดินทางเป็นหลัก และนี่ก็เป็นเพียง 6 จาก 12 อุปกรณ์ฉุกเฉินที่ควรมีติดรถเอาไว้ สำหรับอีก 6 อุปกรณ์นั้นฝากติดตามได้ที่ 12 สิ่งที่ควรมีติดรถไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน(ภาค2)